อารมณ์ค้างหลังอ่าน #2 นากพัทธ์ นิยายไทยเล่มแรกที่ม้าอ่าน


          "นากพัทธ์" นับเป็นนวนิยายไทยเล่มแรกที่ม้าหยิบขึ้นมาอ่านเลยก็ว่าได้ หากไม่นับช่วงประถมที่พี่สาวเคยให้ลองอ่านแจ่มใส เพราะปกติม้าจะอ่านแต่หนังสือแปลตลอด พอมาช่วงหลังๆเริ่มอ่านเองได้เลยหันมาสนใจนวนิยายไทย ว่าจะลองอ่านดูสักหน่อย อยากเกลาสำนวนภาษาของตัวเองด้วยแล้วก็อยากลองอ่านเรื่องไทย ๆ ด้วย ม้าก็เลยขอให้แม่ของเพื่อนเขาแนะนำมาให้อีกที ขอแนวพีเรียต ๆ ตอนไปงานหนังสือเลยฉกเอาเรื่องนี้มาอ่านกับอีกเรื่องหนึ่งคือทวิภพ เล่นเอาเสียกรอบเลย (ก็เล่นซื้อหนังสือประวัติศาสตร์มาด้วยอีกสองเล่มนี่นา)

          ความประทับใจแรกที่เปิดขึ้นอ่านนั้นไม่มีเลยสักนิด เปิดมาอ่านก็พบกับสำนวนที่ไม่คุ้นเคยและงง ๆ อยู่บ้าง ชื่อออกจะโบราณ ๆ ไม่คุ้นหู บางฉากถึงกับต้องหันไปถาม "แม่ ๆ คำนี้แปลว่าอะไรคะ?" กันเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าหนังสือเขาไม่ดีนะ แต่ภาษาไทยของม้ายังดีไม่พอจะอ่านอะไรแบบนี้มากกว่า แปลกใหม่ดีเหมือนกัน ได้อ่านอะไรต่างจากเดิมบ้าง แถมมีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อ่านด้วย เหมือนได้ความรู้ไปในตัว ยิ่งอ่านนาน ๆ ไป เออ... เว้ย... มันเพลินดีแฮะ ลื่นไหลไปช้า ๆ (ถ้าไม่นับคำที่พิมพ์ผิดพิมพ์ตกไป) เนื้อเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งคุยกับแม่ ป้า กับน้าเรื่องเก่า ๆ ที่คนรุ่น baby boomer เขารู้กัน เรื่องวัดเรื่องวา บทสวด ยันเรื่องทำศพ ไม่รู้ทำไมอ่านแล้วขนลุก รู้สึกเหมือนเดาทางได้แต่อยากอ่านต่อ อ่านไปอ่านมาสองเล่มก็จบไปเมื่อวันที่ 7 พฤษภา หลังจากอ่านจบ ใจก็ตราตรึงอยู่กับเรื่องการเชื่อมโยงเรื่องราวเข้าด้วยกันต่าง ๆ ของทมยันตี ความรู้สึกมันแผ่ซ่านไปทั่วไปกับตอนจบที่มีทั้งความโศกเศร้าและน่าเห็นใจปนกันไปกับฉากจบอันแสนสุข สมแล้วที่เป็นศิลปินแห่งชาติ แต่งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบได้ละเมียดละไมดีจริง ๆ เทียว

          เรื่องเปิดตัวด้วย ชาคริยา หญิงสาวที่หมั้นหมายกับชายหนุ่มนักเรียนนอกนิสัยติดดินที่มีชื่อว่า "มากร" ได้รับกำไลนากวงเก่ามาจากการประมูลที่น้องสาวของตน "ชสุริ" ใช้เงินจ่ายไปเพียง 2,000 บาท เรื่องแปลก ๆ เริ่มเกิดขึ้น เธอฝันเห็นเรื่องแปลกๆ มีอะไรแปลก ๆเกิดขึ้นมากมายให้คุณ "ครีวัน" และคุณ "ชาตบุษย์" ผู้ซึ่งเป็นพ่อแม่ของหญิงสาวทั้งสองต้องปวดหัวไปตาม ๆ กัน ปริศนาต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในหัวของชาคริยา ผู้หญิงนุ่งซิ่นที่เธอพบเห็นอยู่บ่อยครั้งเป็นใคร และพยายามจะบอกอะไรกับเธอ กลิ่นหอมของดอกซ่อนกลิ่นนั้น ช่างแสนเศร้าและคุ้นเคยเสียเหลือเกิน เหมือนกับ... ใครสักคน...

          ช่วงบทแรก ๆ ของเล่มแรก จะน่าเบื่อนิด ๆ เพราะยังไม่ค่อยมีเรื่องราวให้ประติดประต่อกันสักเท่าไหร่ แต่พอ "ชสุริ" น้องสาวตัวดีของนางเอก "ชาคริยา" เริ่มพาข้าวของเก่า ๆ เข้าบ้านชักเริ่มสนุก ปมถูกขมวดที่ละน้อย ๆ ในเล่มหนึ่ง เริ่มจากปมเล็ก ๆ ที่แก้ภายในตอน แต่ปมใหญ่ตัดเป็นภาพแปะ ๆ ไว้ให้สงสัย จากนั้นปมใหญ่ก็มาถูกเฉลยทั้งหมดภายในเล่มที่สอง ส่วนที่ชอบมากที่สุดก็คือฉากที่บรรยายเกี่ยวกับบรรดาวิญญาณ มันดูลึกลับดีแต่ถ้าเอามาทำเป็นละครทีวีคงไม่สามารถทำฉากที่บรรยายลงไปแบบนี้ได้ เพราะการอ่านเป็นการใช้จินตนาการ และเรื่องผีเรื่องสาง เห็นจะ ๆ ไปมันจะไม่ลุ้น ดูก็รู้ว่าคืออะไร ตัวละครของเรื่องจะดูงี่เง่าไปในทันที

โครงเรื่องจากชื่อตัวละครทำให้เดาได้ไม่ยากว่าน่าจะมีเค้าโครงมาจากเรื่องแม่นาคพระโขนง ทั้งเรื่องหมอผี และชื่อตัวละครที่มีอยู่ในเรื่อง ก็เหมือนจะสื่อให้รู้ว่าตัวละครเหล่านั้น เคยเป็นใครมาก่อนในอดีตชาติ ที่แปลกคือตอนอ่านกลับไม่นึกถึงเรื่องแม่นาคพระโขนงเลย จนกระทั่งอ่านมาถึงตอนจบ แล้วนึกทวนชื่อตัวละครกับฉากบางฉากทีทำให้คลิก จนต้องร้อง อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

          สิ่งที่ใคร่คิดในนวนิยายเล่มนี้คือม้าสังเกตเห็นในนิยายมีเรื่อง ความเชื่อในหลักศาสนาและไลยศาสตร์ เป็นเมนหลักของเรื่องนี้ ทมยันตีเล่นประเด็นได้สนุก เชื่อมโยงเรื่องราวเข้าหากันได้อย่างเหมาะเจาะ จนตอนอ่านก็ทำให้ม้ารู้สึกเชื่อเรื่องพวกนี้สนิทใจขึ้นมาชั่วคราว และการเชื่อมโยงเรื่องราวเหล่านั้นก็ดูสมเหตุสมผลเสียจนรู้สึกบางคำถามที่มีอยู่ ไม่ต้องถามก็ได้ เพราะมีใจความเนื้อเรื่องที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ต้องถามหาภาคต่อจากผู้เขียนอีกเลย นอกจากนี้อ่านจบแล้วยังทำให้ม้าอยากออกไปสวดมนต์ทำบุญกับป้าขึ้นมาในทันทีเลยล่ะค่ะ

SPOILER ALERT!!! (คลุมดำแล้วเห็นเจ้าค่ะ)
          ฉากที่ทำให้รู้สึกเศร้ามากคือฉากที่ "มากร" ระลึกชาติได้ว่าตนคือ "มาก" ผู้เป็นสามีของ "นาก" ซีนนั้นเป็นซีนห้องชั้นสองของชาคริยา ภาพที่ปรากฏขึ้นในหัวนี่คือ


แสงโคมไฟริบหรี่ส่องชะโลมแช่มช้า    โอ้แววตากลวงกลอกมิง่วงหาว
แสสะท้อนแช่มชื่นสุกสกาว      แม้ไม่กล่าวพี่ก็รู้สูคือใคร

ในใจนี่บทกลอนมาอัตโนมัติ แบบโอย... ระทมใจแทนเจ้ามาก เมียตายทั้งกลมยังถูกเอามาใช้ ลูกก็โดนปิ้งเป็นกุมารทองตั้งแต่ยังไม่ได้ลืมตาดูโลก คือตอนอ่านฟีลกลอนมันได้จริงๆนะ ภาษาไม่สวยเท่าเขา แต่มันแวบขึ้นมาจริง ๆ นั่นแหล่ะ


โอ้อนิจจากว่าจะพบทั้งคู่สุดสมเพช    เหลือเพียงเศษหัวกะโหลกและโครงร่าง

ทั้งลูกยาทรามเชยและเนื้อบาง  ทำไมนางลงเอยอดสูถึงเพียงนี้ 

          แม้สุดท้ายพ่อแม่ลูกจะได้พบกัน แต่ตอนจบม้ากลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจนิดหน่อยที่ได้รู้ว่ามากรแต่งงานกับชาคริยาที่ชาติก่อนคือแม่ทับทิมน้องสาวของนาก มันเป็นความรู้สึก love/hate relationship คือทั้งชอบและไม่ชอบตอนจบในเวลาเดียวกัน แม้เรื่องมันก็ทิ้งท้ายเปรย ๆ ไว้นะว่าหนูแดงจะมาเกิดเป็นลูกมากรกับชาคริยา แต่สุดท้ายคือนากพัทธ์ก็จากไปอย่างนี้น่ะเหรอ น่าสงสารสุด ๆ มาเกิดเป็นแฝดกับหนูแดงเลยได้ไหมจะได้อบอุ่นทั้งครอบครัวอีกครั้ง TT

8/10 เกณฑ์ให้คะแนนนับตามเนื้อเรื่องนะคะ อยู่ในระดับที่ดีมากเลยเชียวล่ะ ม้าเองก็ไม่ใช่นักเขียนหรือนักวิจารณ์ที่เก่งกาจอะไรแต่เขียนไว้เพื่อเป็นประโยชน์เเก่ตัวเองและผู้ที่กำลังมองหาหนังสือดี ๆ สักเล่มมานั่งอ่านดูค่ะ หากใครไม่สนใจเรื่องพิมพ์ตกพิมพ์ผิดน่าจะไม่หัวร้อนนะคะเพราะมันมีพิมพ์ผิดอยู่หลายจุดเหมือนกัน

นากพัทธ์ บทประพันธ์โดยคุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ที่เขียนภายใต้
นามปากกา "ทมยันตี" มีจำนวน 1-2 เล่ม ราคาเต็มขายรวม 560 บาท ลด 20% หากซื้อจากเว็บหรืองานหนังสือ (ในเว็บต้องเป็นสมาชิกนะคะถึงลด 20% หากไม่ได้เป็นลด 10% เจ้าค่ะ)

          สุดท้ายนี้ ม้าก็ขอขอบคุณแม่ยุ้ยที่แนะนำเรื่องนากพัทธ์มาให้ม้าอ่าน หลังจากนี้คงจะหานิยายไทยมาอ่านเพิ่มมากขึ้น และม้าต้องขอขอบคุณผู้อ่านบล็อกของม้าทุกคนด้วยนะคะ สุดท้ายนี้ หากมีนิยายเรื่องใดแนะนำสามารถมาพูดคุยกันได้ด้านล่างนี้เลยค่ะ สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้เป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะโพสต์เก่าหรือโพสต์เก่าม้าก็ตอบกลับหมดนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่า >/\<

Comments

Popular posts from this blog

อารมณ์ค้างหลังอ่าน #1 Miss Peregrine's Home for Peculiar Children Series / The Movie

หาวถู #1 สั่งหนังสือจาก Book Depository + รีวิวสภาพหนังสือ