หาวถู #1 สั่งหนังสือจาก Book Depository + รีวิวสภาพหนังสือ

คำเตือน: ยาวมว๊ากและอาจมีอัปเดตข้อมูลภายหลัง
   
          สวัสดี สวีดัดค่า~ ม้าเองงงง วันนี้ม้าก็ไม่ได้ว่างอะไรมากมายแต่อยากโพสต์อะไรลงบล็อกบ้างจะได้ไม่โล่งโจ้งจนเกินไป อารมณ์ประมาณไม่ว่างแต่ทำตัวว่างอะไรแบบนี้ //เพิ่งเปิดบล็อกก็เลยเห่อเป็นพิเศษ (ฮา)

          ความจริง นอกจากจะเอาไว้บ่นอะไรต่อมิอะไร บล็อกนี้ม้าเองก็อยากเอาไว้เขียนรีวิวหรือฮาวทูอะไรพวกนี้ด้วยค่ะ ปกติเป็นพวกชอบดอง การบอกตัวเองให้เขียนรีวิวคงจะช่วยกระตุ้นได้สักจิ๊ดนึง เอาไว้เตือนความจำบ้างไรบ้าง และเป็นการแบ่งปันข้อมูลเล็กๆน้อยๆไปในตัวด้วยค่ะ หวังว่าท่านผู้อ่านจะได้อะไรกลับไปจากบล็อกของม้าบ้างนะคะ


          เอ...จะพูดถึงหนังสือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาที่ม้าจะหาซื้อหนังสือภาษาอังกฤษก็คงจะไปตามหาที่ asiabooks ไม่ก็ต้องถ่อไปถึงร้าน kinokuniya ในเมือง สำหรับคนที่อยู่แถวนั้นคงจะสบายเฉิบ ส่วนม้าเองก็ไม่ได้ลำบากอะไรมากเพราะว่าบ้านอยู่ที่เขตปริมณฑลอยู่แล้ว ก็แค่เดินออกจากบ้านนั่งรถสองต่อเพื่อขึ้นบีทีเอสไปสยาม แต่บางทีก็ต้องเข้าใจว่าค่ารถอะไรต่อมิอะไรทำให้การหาหนังสือ ที่บางทีอยากได้แค่เล่มเดียว กลายเป็นเรื่องขี่ช้างจับตั๊กแตนไปเลย แถมหนังสือบางเล่มมันก็ซื้อทันทีไม่ได้นะเฮ้ย ต้องสั่งผ่านร้านและรอไปเอาที่ร้านตอนหนังสือมาอีก หรือถ้าไม่อยากรับเองให้เขาส่งมาบ้านต้องซื้อถึงราคาขั้นต่ำถึงจะส่งฟรี (แค่ราคาหนังสือหนูวก็น้ำตาจะเล็ดแล้วค่ะคุณพี่ขา...) ครั้นจะไปสั่งโดยตรงกับเว็บไซต์อย่าง Amazon ซึ่งค่าหนังสือนั้นถูกกว่ามาก แต่เมื่อเห็นค่า shipping แล้วกลับทำให้ค่าหนังสือแพงขึ้นจนแทบจะเป็นลม แลด้วยปัจจัยตั่งต่างดังนี้เอง ที่ทำให้คนที่ยังเป็นนักศึกษาไร้เงินเดือนอย่างม้าเปลี่ยนจากกินข้าวไปกินแกลบได้ง่ายๆ จนม้าได้มาเจอเว็บขายหนังสือออนไลน์อย่าง Book Depository นี่แหล่ะ ที่ทำให้ม้าประหยัดเงินค่ารถ ค่าส่ง และเวลาได้พอตัวเลยเชียว


Asiabooks, Kinokuniya, Amazon

     Asiabooks และ Amazon ม้ารู้จักมานานแสนนาน แต่ Kinokuniya ม้าเพิ่งได้สัมผัสเองครั้งแรกก็คือช่วงท้ายปีที่แล้ว ม้าลองเทียบราคาเล่มที่จะซื้อดูแล้วพบว่าที่หน้าเว็บ Asiabooks ไม่มีให้กดสั่ง และราคาที่คิโนะกับอเมซอนก็แพงกว่าของ Book Depository ค่ะ แถมตอนแรกว่าจะกดสั่งที่เว็บคิโนะปัญหาก็เยอะเสียเหลือเกิน เลยกลับมาตายรังที่นี่ดีกว่า อิอิ


Book Depository

          คาดว่านักอ่านทั้งหลายคงจะรู้จักกับเจ้าเว็บไซต์ขายหนังสือออนไลน์อย่างเจ้า Book Depository กันแล้ว ตัวม้าเองเคยสั่งผ่านทางเว็บนี้มาแค่สองครั้ง และขั้นตอนที่จะรีวิวก็มาจากการสั่งครั้งที่สองนี่แหล่ะเจ้าค่ะ ถ้าหากใครยังไม่เคยสั่งหนังสือจากเว็บนี้และกำลังจะสั่งหนังสือออนไลน์ผ่านเว็บนี้เป็นครั้งแรก หรือยังไม่เคยรู้จัก Book Depository จากที่ไหนมาก่อน ม้ายินดีอธิบายขั้นตอนตั้งแต่สมัครสมาชิกเลยจ้ะ #โพสต์มันก็จะยาวๆหน่อย #ขี้เกียจอ่านก็เลื่อนกันไปย์


วิธีการสั่งหนังสือจาก Book Depository แบบ step by step และละเอียด

หมายเหตุ: ภาพบางภาพถูกแคปไว้คนละเวลา แต่จะพยายามอธิบายให้แนบเนียนที่สุด ใครเน็ตไม่ดีกรุณาทำใจก่อนเลื่อนลงมาดู

ขั้นตอนการสมัครสมาชิก / ลงชื่อเข้าใช้

     1. ก่อนสิ่งอื่นใด เราต้องเข้าไปที่หน้าเว็บมันก่อน ซึ่งก็คือ https://www.bookdepository.com


     2. จากนั้นกดเข้าไปที่แท็บสามขีดมุมซ้ายบนของหน้าเว็บ

จากนั้นจะมีหน้าเมนูปรากฏขึ้นมาแบบนี้ ให้เลือกตรง Account & Help

     3. เข้าไปที่ Sign in / Join

จะขึ้นหน้านี้มาให้

ถ้าสมัครสมาชิกให้กรอกฝั่งขวา อีเมลล์ >> ชื่อจริงพร้อมนามสกุล >> รหัสผ่าน >> ยืนยันรหัสผ่าน ตามลำดับ สมัครเสร็จแล้วมันจะขึ้นว่า thank you for registering หลังจากนั้นก็เริ่มขั้นตอนการสั่งซื้อและจ่ายเงิน ได้เลย

ถ้าลงชื่อเข้าใช้ก็ด้านซ้ายมือจ้า

ลงชื่อเข้าใช้เสร็จมันจะขึ้นหน้าล่าสุดที่เราเปิดของเว็บเอาไว้พร้อมกับคำว่า Welcome back ตัวเขียวๆ ของม้าเปิดหน้า Address Book ไว้ตอนออกจากเว็บครั้งสุดท้ายค่ะ

ขั้นตอนการสั่งซื้อและจ่ายเงิน

     1. คลิกที่ช่องค้นหาหนังสือ

เครื่องมือค้นหาจะละเอียดกว่า ถ้ามีรายละเอียดเกี่ยวกับหนังสือที่ตามหาก็ใส่ช่องใดช่องหนึ่ง ยิ่งถ้าเป็นเลข ISBN จะหาเจอทันที

     2. พิมพ์ชื่อหนังสือที่ต้องการที่ด้านบนแล้วจะมีหนังสือที่ชื่อคล้ายกันมาให้ ถ้ามีหนังสือที่เราต้องการก็กดเข้าไปดูได้เลย

แต่ถ้าไม่เจอให้กดค้นหา (แว่นขยาย) แล้วจะมีหนังสือให้เราเลือกดูแบบนี้ ถ้าเจอก็กดเข้าไป ถ้าไม่เจอก็แสดงว่าไม่มี (เจ็บใจนักตอนนี้ถูกกว่าตอนสั่งอีก ฮึ่มมม)

     3. เข้าไปดูให้ถูกจริตแล้วกดใส่ตระกร้า หรือกดใส่ wishlist เอาไว้รอมันลดแล้วค่อยซื้อ

     4. พอกดลงตะกร้ามันจะขึ้นมาแบบนี้ให้เราคลิกเลือกว่าจะดูตะกร้า/ชำระเงินหรือซื้อต่อให้สาแก่ใจ (แนะนำให้กดซื้อทีละเล่มหรือทีละบ็อกซ์เซ็ตดีกว่า เวลาตามของจะได้แจ้งได้ชัดเจน)

     5. ตรวจเช็คของและราคาให้เรียบร้อยแล้วกดจ่ายเงินได้ ถ้าจ่าย PayPal เลือกแยกต่างหาก ซึ่งส่วนนี้ไม่ขออธิบายเพราะม้าใช้บัตรเดบิตที่มี Verified by VISA ไม่ได้ผูกบัญชีกับ PayPal เอาไว้ ใครเคยใช้ประจำก็หักเหมือนปกตินั่นแล

     6. ต่อไปจะขึ้นหน้าให้กรอกแบบฟอร์มที่อยู่และข้อมูลชำระเงิน ส่วนนี้สำคัญมาก ต้องกรอกเรียงลำดับการเขียนที่อยู่ให้ถูกต้อง ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงส่งไม่ถึงเรา ส่วนเรื่องที่อยู่จะกรอกที่อยู่เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้(เคยเห็นพัสดุของรุ่นพี่ที่มหาลัย) ความหมายของช่องบางอันอาจจะไม่ตรง แต่เวลายืนยันใบเสร็จแล้วมันจะเรียงตรงกับที่เราเขียนหน้าซองจดหมายปกติค่ะ ตรงช่องทางการจ่ายเงินนั้น ในนี้กดเลือก จ่ายผ่านบัตร VISA กรอกเสร็จครบตามรูปแล้วกดซื้อ

รอ รอ รอ รอให้มันตัดเงิน

     7. เมื่อทำการสั่งซื้อสำเร็จจะมีหน้าขอบคุณที่ใช้บริการขึ้นมา เราสามารถกดช้อปต่อได้ตามความว้อนท์ (รูปนี้เอามาเป็นตัวอย่างเพิ่มเติมนะคะเพราะเราลืมแคปของเล่มมิสเพเรกรินไว้ อาจจะมีใช้แทรกอีกนิดหน่อยแต่ขั้นตอนเหมือนเดิมค่ะ)

และจะมีแจ้งเตือนทางอีเมลล์


ขั้นตอนการตรวจเช็คสถานะของสินค้า

     1. จด / ก็อปปี้หมายเลขการสั่งซื้อ (Order number) ไว้ เช่น BDU-242-889X5247XXX

     2. คลิกที่ order status online ในเมลล์ หรือเข้าไปที่ https://www.bookdepository.com/track หรือกดเข้าที่ แท็บสามขีดมุมซ้ายบนหน้าเว็บ >> Account & Help >> Order Status ตามลำดับ


     3. จะมีหน้านี้ปรากฏขึ้น ให้ใส่หมายเลขการสั่งซื้อลงไปตามด้วยอีเมลล์ดังรูป

     4. ข้อมูลคำสั่งซื้อของเราจะเด้งขึ้นมา ช่วงแรกๆจะอยู่ในช่วง processing ตามรูป


 แต่ถ้ามีคำว่า Dispatched สีเขียวขึ้นมาแบบนี้แสดงว่าจัดส่งแล้ว นับวันรอจากวันที่ระบุได้เลย อย่างต่ำ 7-10 วัน อย่างมาก 20-30 วัน ของม้าจัดส่งวันที่ 27 กุมภา ของมาถึงตอน 10 มีนา ใช้เวลา 11 วัน (ขอบคุณเพื่อนมากๆที่อุตส่าห์หอบพัสดุมาให้ คือมันใหญ่มว๊ากกก)

     อีกวิธีหนึ่งที่เช็คได้ว่าของถูกจัดส่งมาแล้วหรือยัง ให้กดเข้าที่แท็บมุมซ้ายของเว็บ >> Account & Help >> My Account

         จากนั้นกดเข้า Order History

          มันจะขึ้นรายการของย้อนหลังทั้งหมดให้เราดูว่าถูกจัดส่งออกไปแล้วหรือยัง ของที่ถูกจัดส่งแล้วจะอยู่แท็บ Previous Orders


ส่วนในกรณีที่หนังสือยังอยู่ในขั้นตอน Processing อยู่ จะมีแท็บอีกแท็บปรากฏขึ้น คือ Open Orders ซึ่งแท็บนี้จะเด้งมาก่อนเสมอเวลาเปิดดู Order History แต่ม้าแคปเล่มมิสเพเรกรินตอน Processing ไม่ทันก็เลยแคปเล่มที่เพิ่งกดซื้อไปตามที่เคยแปะไว้ด้านบนค่ะ




          หมายเหตุ: ถ้ามีปัญหาให้ติดต่อทาง Book Depository ตามข้อมูลข้างล่างที่เขียนถึงข้อดี ม้าเองเคยติดต่อไปเพราะหนังสือไม่มาสักที เขาก็ส่งมาให้ใหม่ รอต่อไปได้สักเดือนนึงก็มาถึงให้ได้อ่าน

ข้อดี (Pros)

+ Founded & Acquired: Book Depository ก่อตั้งปี 2004 เข้าเป็นบริษัทในเครือ Amazon ตั้งแต่ปี 2011 = หนังสือเยอะแน่นวล

+ E-commerce: ใช้จ่ายออนไลน์ หักผ่านบัตรเครดิต มาสเตอร์การ์ด บัตรวีซ่า หรือ Paypal ก็ได้ = สะดวก ไม่ต้องดิ้นรนถ่อไปถึงร้านหนังสือก็ซื้อได้ ประหยัดเวลาและค่ารถ


+ Varieties of Currency: มีค่าเงินให้เลือกจ่ายรวมถึงบาท = ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน / คำนวณไตร่ตรองก่อนตัดสินใจซื้อง่าย

+ Free Delivery: ส่งฟรีไม่คิดค่าบริการ = จ่ายแค่ราคาหนังสือตามที่เห็น


Price: หนังสือบางเล่มถูกกว่าซื้อที่ Asiabooks และ Kinokuniya (แม้ว่าจะมีบัตรลดแล้วก็ตาม but บางทีบัตรคิโนะลดถูกกว่าประมาณ 10 บาท แต่ค่าบัตรรายปีราคา 500 บาท ถ้าซื้อไม่บ่อยจะไม่คุ้มเอา)

+ Refund / Resending: พัสดุไม่ถึงมือขอเงินคืน / ให้ส่งใหม่ได้ = ไม่มีโกง คืนเงินให้ทันที แต่ถ้าให้ส่งใหม่ต้องรอลุ้นเหมือนตอนสั่งครั้งแรก

Customer Service: บริการตอบรับฉับไวภายใน 24 ชม. ติดต่อง่าย = มีปัญหาแจ้งได้ตัลหลอดทาง https://www.bookdepository.com/contactus หรือที่อีเมลล์ help@support.bookdepository.com



ข้อเสีย (Cons)

No Specific Date & Having No Tracking Number: ระบุวันเวลาของจะถึงมือที่แน่ชัดไม่ได้ ไม่มี tracking no. ให้ตาม = ของมาถึงเมื่อไหร่ก็ไม่รู้แถมยังติดตามไม่ได้อีกต่างหาก // เห็นเขาเขียนไว้ว่าถ้าหนังสือราคาแพงมากๆจะส่งทาง DHL UPS ไม่ก็ Interlink อันนั้นจะเช็ค tracking no.ได้

- Delivery Across The Sea: หนังสือเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมา (จาก UK / Australia) ใช้เวลานานกว่าของจะถึงมือ = ไม่เหมาะสำหรับคนที่รอไม่ได้เพราะต้องการหนังสืออย่างเร่งด่วน / ขี้เกียจรอ อีกทั้งสินค้าที่ซื้ออาจมีตกหล่นทำให้ส่งไม่ถึงมือได้ *Tracking number = รหัสใช้ตามพัสดุที่ลงทะเบียนเอาไว้

Separate packages: หนังสือที่ถึงแม้จะสั่งรวมกันในบิลเดียวกันจะถูกส่งแยก = ได้หนังสือไม่พร้อมกัน + โอกาสส่งไม่ครบตามที่สั่งหรือไม่ถึงมือมีสูงมากกว่าสั่งทีละเล่ม (แม้สั่งทีละเล่มก็ต้องคอยลุ้นว่าของจะมาถึงมือไหม เมื่อไหร่ อะไรยังไง)

+/- Book Condition: สภาพหนังสือไม่เป๊ะเว่อร์ อาจมีรอยนิดหน่อย = รับได้สำหรับเรา แต่สำหรับบางคนที่เซ้นสิทีฟกับสภาพหนังสือมากๆอาจจะรับไม่ได้ ข้อนี้ไม่เชิงบวกหรือลบเท่าใดนักอยากให้ลองไปดูภาพจริงกันก่อน ซึ่งก็คือ The Art of Miss Peregrine's Home for Peculiar Children นั่นเองงงงง ดูซิว่าตั้งแต่เปิดห่อ สภาพหนังสือจะเป็นอย่างไร ของข้างในจะมีอะไรบ้าง!

ชำแหละกล่อง Book Depository




































เพิ่มเติม

Cancelling & Returning Order: หากได้รับของแต่ไม่ต้องการ อยากยกเลิก ต้อง cancel โดยกรอกฟอร์มจาก  https://www.bookdepository.com/cancelorder ภายใน 30 วันที่ได้รับของ และต้องส่งกลับไปภายใน 14 วัน พอทาง Book Depository ได้รับหนังสือ ถึงจะคืนเงินให้ภายในเวลา 14 วัน โดยค่าส่งของกลับต้องรับผิดชอบเอง เว้นแต่จะเป็นความผิดพลาดของทาง Book Depository

No Refund for The Lower Price: ไม่สามารถ cancel หรือขอเงินคืนจากหนังสือที่สั่งไปแล้วก่อนหน้าเพื่อกดซื้อใหม่ตอนราคามันลดลงได้ // แต่ถ้าเป็นหนังสือ pre-order เรากด cancel ได้ตลอดเวลาก่อนที่ตัวหนังสือจะขึ้นสถานะจัดส่งมาให้

Cover Design: ปกหนังสือที่เห็นบนหน้าเว็บมาจากบริษัทผู้จัดจำหน่าย (ที่คงจะมีรูปแบบปกที่หลากหลาย) = บางปกอาจจะไม่ปรากฏบนหน้าเว็บไซต์ ทำให้ไม่รู้ว่าหน้าปกจริงเป็นอย่างไร + ปกหนังสือที่ส่งมาจากคลังสินค้าของผู้จัดจำหน่ายอาจจะต่างออกไปจากที่เห็นบนหน้าเว็บ (ซึ่งทาง Book Depository ก็บอกไม่ได้จนกว่าของจะถูกส่งมาถึง)



สรุป: ความพอใจอยู่ในระดับสูง และยืนยันว่าจะใช้บริการเว็บนี้ต่อไป

วิธีติดต่อ: http://whitehorsetriplethree.blogspot.com/2018/03/how-to-contact-for-support-in-book.html

          เอาล่ะ รีวิวและวิธีการสั่งซื้อของเจ้า Book Depository ก็หมดลงแต่เพียงเท่านี้ ใครสงสัยอะไรหรือว่าม้าเขียนงงตรงไหนสามารถถามมาได้เลยนะคะ ม้าเป็นนักโพสต์ฝึกหัด อย่างไรถ้าพอตอบได้จะตอบให้น้า~


Comments

  1. ผมคงโชคไม่ดี สั่งไปสามเดือนกว่าแล้วยังมาไม่ถึงเลย ออเดอร์นี้ BDU-413-50985760389

    ReplyDelete
    Replies
    1. เอ...ปกติไม่นานขนาดนี้นะคะ ลองติดต่อทาง Book Depository ดูแล้วหรือยังคะ ถ้าของหายรีฟันด์หรือให้เขาส่งใหม่มาได้นะคะ :)

      Delete
    2. ก่อนมาส่งเขาจะโทรมามั้ยครับ พอดีกลัวใส่หมายเลขโทรศัพท์ผิด แต่ที่อยู่ถูกหมดครับ

      Delete
    3. ไม่โทรค่ะ ส่งตามที่อยู่เลย :))

      Delete
    4. ของผมนี่ก็ไม่ชัวร์ว่าที่อยู่เราเขียนไปเขาจะเข้าใจมั้ย ดันไปเขียนตรงstateว่าเป็นเขตบ้านเรา 5555 แต่ก็เขียนบอกนะว่าเออหมู่บ้านอะไร ซอยอะไร ละไม่ได้ซักทีเลยส่งเมลไปหา เขาบอกให้เราลองเช็ค local sorting office นี่ก็เลยงงๆนิดๆว่ามันต้องเช็คที่ไหนหว่า

      Delete
    5. Local sorting office คือคลังแยกของค่ะ รู้สึกว่าเขาจะคัดแยกพัสดุที่ไปรษณีย์หลักสี่นะคะ สามารถไปเช็คดูได้ แต่เอ...กรอกผิดช่องมันไม่น่าเป็นอะไรนะเพราะว่าหน้าซองมันไม่ระบุข้อความ state: xxx อะไรพวกนี้ แค่เขียนที่อยู่ครบก็พอแล้ว แต่ที่แน่ๆคือต้องมีจั่วหัวไว้ว่า "ประเทศไทย" ค่ะ

      Delete
  2. ของหนูผ่านมา 26 วันแล้วค่ะหนูอยู่ภาคใต้ ตอนนี้ยังไม่ได้เลยค่ะ กังวลมากๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ลองติดต่อไปรษณีย์หรือทางบริษัทหรือยังคะ? วิธีติดต่อเว็บตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ ^^ https://whitehorsetriplethree.blogspot.com/2018/03/how-to-contact-for-support-in-book.html?m=1

      Delete
  3. ขอสอบถามหน่อยนะคะ พอดีสั่งหนังสือไปแล้ว เห็นในContentบอกว่าสามารถ check พัสดุได้ หากเป็นหนังสือที่ราคาแพง จาก DHL USP หรือ intelink นี่ จะcheck ได้อย่างไรหรอคะ แล้วต้องราคาประมาณไหนถึงจะติดตามได้คะ ขอบคุณค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. อันนี้ตัวผู้เขียนเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าขั้นต่ำมันต้องเท่าไหร่ เพราะไม่เคยสั่งถึงขั้นที่มีเลขพัสดุให้เช็คเลย แต่คิดว่าถ้าสอบถามทาง Book Depository จะดีที่สุดนะคะ การติดต่อรายละเอียดประมาณเดียวกับโพสต์นี้เลยค่ะ
      http://whitehorsetriplethree.blogspot.com/2018/03/how-to-contact-for-support-in-book.html

      Delete
  4. กรอกที่อยู่ยังไงเหรอคะ อยากจะสั่งแต่กลัวกรอกที่อยู่ผิดแล้วของไม่ถึง ตอนนี้เว็บมันมีเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ตรงที่ให้ใส่ใน Address book เข้ามาน่ะค่ะ มันมี Refrerent name อะไรพวกนี้ให้กรอกเพิ่มอะค่ะเราไม่รู้ว่าต้องใส่อะไร

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไว้ไปศึกษาเพิ่มเติมก่อนแล้วจะมาแนะนำให้นะคะ ^^

      Delete
    2. โอเคค่ะ ตามที่ม้าเข้าใจ มันไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่นะคะ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับที่อยู่เราใส่ให้ครบก็พอค่ะ ส่วน reference name มันคือจะให้ส่งไปที่ไหนน่ะค่ะ บ้าน ที่ทำงานหรือคอนโดอะไรทำนองนี้

      Delete
  5. เรากรอก จังหวัด ผิดช่อง ไปใส่ที่ช่อง County/state อะ ช่อง city เราไปใส่เป็นอำเภอ
    แต่ หน้าสรุปออเดอร์ มันก็ขึ้นครบนะครับ ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอน Processing ควรติดต่อข้อแก้ข้อมูลไปดีไหมครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไม่ทราบว่าตอนนี้ได้หนังสือหรือยังคะ

      Delete
  6. ใช้เวลา prosessing กี่วันเขาถึงจะเริ่มส่งหรอครับ ผมจะสองวันแล้วยังไม่ dispatched. เลยครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. 2-4 วันเป็นอย่างต่ำค่ะ ไม่ทราบว่าตอนนี้ได้หนังสือที่สั่งเรียบร้อยดีไหมคะ

      Delete
  7. พอจะทราบมั้ยครับว่า Book Depository ส่งผ่านไปรษณีย์ไทยหรือบริษัทอื่นครับ
    ของผมได้หนังสือครบแล้ว แต่คนส่งวางทิ้งๆขว้างๆไว้หน้ารั้วบ้าน เสี่ยงหายมากๆ
    เลยอยากจะคอมเพลนในไทยครับ (เมลไปหา BD แล้ว เขาตรวจสอบบริษัทท้องถิ่นให้ไม่ได้)

    ReplyDelete
    Replies
    1. จัดส่งทางไปรษณีย์ไทยค่ะ ขอโทษที่ตอบช้านะคะ

      Delete
  8. ว่าแต่นะคะ ที่เขียนที่อยู่ไปเป็นภาษาไทยหรืออักฤษคะ กลัวเขียนไทยแล้วไม่ถึงค่ะ ฮือ

    ReplyDelete
    Replies
    1. เขียนภาษาอะไรก็ได้ค่ะ ตามที่สะดวกเลย :) ตอบช้าไปหน่อยหวังว่าจะได้รับหนังสือเรียบร้อยนะคะ

      Delete
  9. เป็นหนังสือนำเข้า ใช่ไหมครับ
    เเล้วเสียภาษีไหม

    ReplyDelete
    Replies
    1. หนังสือต่างประเทศค่ะ เครือเดียวกับ Amazon ในไทยถ้าสั่งหนังสือจะไม่โดนภาษีนำเข้าค่ะ เป็นกรณียกเว้นภาษีให้

      Delete
  10. ตอนนี้ก็กำลังรอของอยู่เหมือนกันครับ เค้าจัดส่งวันที่30เมษา ตอนนี้19พฤษภาแล้ว ยังไม่ได้เลยครับ ไม่รู้ว่าจะอีกนานแค่ไหน😭

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตอนนี้ได้รับหนังสือหรือยังคะ เพิ่งมาเช็คหน้าบล็อกเลยตอบช้า TT

      Delete
  11. This comment has been removed by the author.

    ReplyDelete
  12. billing address กับ shipping address ต่างกันตรงไหนหรือครับ พอจะทราบไหมครับ
    ต้องเหมือยกันหรือเปล่าครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. อ่า เพิ่งมาเช็คคอมเมนต์อีกแล้ว หวังว่าตอนนี้จะได้หนังสือแล้วนะคะ แต่เขียนเผื่อไว้สำหรับใครเลื่อนลงมาเจอแล้วกัน: ทั้งสองอย่างนี้ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันค่ะ

      Delete
  13. กำลังเล็งๆ หนังสือ cactus เลยครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ผ่านไปปีนึงตอนนี้ได้ลองสั่งซื้อมารึยังเอ่ย ถ้าสั่งตอนนี้น่าจะนานหน่อยนะคะโควิดทำพิษ

      Delete
  14. แล้วถ้าของยังไม่ถึง ยังprocessing อยู่เลยอ่ะคะ ต้องทำยังไงคะ?

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอโทษนะคะที่ตอบช้าเกินไป ขอตอบเผื่อให้คนที่เข้ามาดูที่หลังแล้วกันนะ
      คือ กรณีที่อยากเปลี่ยนที่อยู่หรือยกเลิกออร์เดอร์ทำได้ขณะ processing ค่ะ แต่จากที่พยายามทำความเข้าใจที่ถามน่าจะรอนานแล้วแต่ของยังไม่ถึงแต่ของยัง processing อยู่หรือเปล่า ถ้าแบบนั้นก็ต้องรอนกว่าจะขึ้นสถานะ dispatch อยู่ดีเพราะทางนั้นกำลังดูสต็อกสินค้าให้อยู่
      อย่างไรก็ขอโทษในความล่าช้าด้วยนะคะช่วงหลังๆมาไม่มีแรงในการเขียนบล็อกเลยไม่ได้เข้ามาเช็คเลย

      Delete
  15. สอบถามว่าถ้าสั่งหนังสือผ่านทาง Book Depository สามารถขอใบกำกับภาษี มาไว้สำหรับลดหย่อนภาษีได้มั้ยคะ ถ้าได้สามารถขอผ่านช่องทางไหนคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. มีใบเสร็จให้ แต่เรื่องลดหย่อนภาษีนี่เราไม่ทราบจริงๆค่ะว่าทำได้หรือไม่ แต่คิดว่าไม่น่าจะใช้ได้นะคะเพราะมันน่าจะถูกนับเป็นสินค้านำเข้า แย่างไรก็ขอโทษที่ตอบไม่ทันช่วงเวลาด้วยค่ะ บางอย่างที่ให้ใช้สิทธิ์มันก็หมดอายุไปตอนมีกำลังใจกลับมาเขียนบล็อกซะแล้ว

      Delete
  16. สั่งผิดค่ะ ยกเลิกแล้วสั่งใหม่ได้ไหมคะ หรือมีวิธีอื่นไหมคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. มาตอบไม่ทันแต่ขอแปะไว้เผื่อมีคนพลาดแบบเดียวกันหลงเข้ามาอ่านค่ะ ถ้าสั่งผิดแล้วรู้ตัวก่อนขึ้นสถานะ dispatch ติดต่อขอยกเลิกทาง customer service ของ book depository ได้เลยค่ะ กรณีที่สั่งแล้วไม่ได้เช็คสถานะจนกระทั่งวันหนึ่งมีของมาส่งแล้วพบว่าหนังสือสั่งผิดหรือส่งผิดให้ติดต่อ customer service เช่นเดียวกัน แต่ต้องไปคุยกับเขานะว่าจะคืนของได้ไหม แต่ต้องติดต่อภายในระยะเวลาที่กำหนดหลังได้รับพัสดุด้วย เพราะอาจต้องทำเรื่องคืนของให้กับทางบริษัท

      Delete
  17. ขอบคุณสำหรับบทความครับ ผมสั่งหนังสือวันที่ 24/01 ได้รับหนังสือ 18/02 สภาพขอบหนังสือบุบนิดหน่อย โดยรวมโอเคเลยครับ ^^

    ReplyDelete
    Replies
    1. สวัสดีครับ อยากทราบว่าหนังสือที่คุณสั่งไป Dispatch วันที่เท่าไหร่ครับ?

      Delete
    2. Dispatch วันที่7มิย รอลุ้นมากค่ำว่าจะมาถึงวันไหน สภาพนังไง

      Delete
  18. ขอบคุณสำหรับบทความครับ ตอนนี้สั่งไปสี่เล่ม เว็บนี้อินดีมากที่จะDispatchทีละเล่ม ทั้งๆที่สั่งพร้อมกัน หวังว่าจะส่งถึงมือครบ32

    ReplyDelete
  19. สวัสดีค่ะ

    เราเป็นทีมงาน affiliate marketing จากบริษัท ChineseAN นะคะ เราเป็นบริษัทที่ทำ affiliate marketing ค่ะ อยากชวนให้ทางเพจร่วมทำ affiliate marketing กับเราค่ะ

    หากคอนเทนท์ของคุณมีการพูดถึงสินค้าบางอย่างที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเรา เช่น ไนกี้, สินค้าในวัตสัน, สินค้าทั่วไปที่สามารถหาซื้อได้ใน BookDepository, Topvalue BigC Robinson, สินค้าความงามจาก Konvy (และยังมีอีกหลายแบรนด์ หลายเว็บไซต์ รวมถึงเว็บจอง รร . เช่น อโกด้า ด้วยค่ะ) ซึ่อหากมีการซื้อขายผ่านลิงค์ของคุณ คุณก็จะได้รับค่าคอมมิสชั่นด้วยค่ะ และคุณยังสามารถซื้อสินค้าผ่านลิงค์ของตัวเอง แล้วได้รับค่าคอมเช่นกันค่ะ ถือเป็นการ cash back อย่างหนึงค่ะ

    หากสนใจ รบกวนทิ้งเมล์ไว้ได้เลยนะคะ เราจะส่งรายละเอียดเข้าไปให้ค่ะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ติดต่อเมลล์ที่ใช้เขียนบล็อกได้เลยค่ะ ตามนี้ white.mare302@gmail.com ข้อมูลอย่างอื่นไว้บอกเพิ่มเติมหลังไมค์นะคะ อาจจะช้าหน่อยแต่ตอบแน่ค่ะ

      Delete
  20. ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ รีวิวละเอียดมาก เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ :)

    ReplyDelete
    Replies
    1. ยินดีค่า ได้ยินแบบนี้เริ่มมีไฟเขียนบล็อกเพิ่มขึ้นมาเลย พักไปนานต้องอัพเดตสักหน่อยละ

      Delete
  21. เวลาสั่งหลายเล่มทำไมเขาถึงไม่รวมส่งมาทีเดียว น่าจะประหยัดค่าส่งมากกว่านะครับ เป็นต้นทุนของเขาเองด้วย

    ReplyDelete
  22. โหว่าจะสั่งหนังสือภาพมิสเพริกรินพอดีเลยพอดีชอบเรื่องนี้ 555

    ReplyDelete
    Replies
    1. สั่งมาหรือยังคะคุม เราเคยไปงาน Big Bad Wolf มันลดเหลือไม่ถึงห้าร้อยเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่างานหนังสือปกติจะลดเท่านี้ไหม แต่งานจะจัดอีกเมื่อไหร่ไม่แน่ใจนะคะ โควิดมันร้ายกาจจจ

      Delete
    2. ยังเลยค่ะ ราคาอัพขึ้นเยอะเลย แต่เห็นว่า amazon ถูกกว่า แต่เคยสั่งเล่มนึงไปตอนเดือนสิงหา กว่าจะจัดส่งให้รอตั้ง 5 วัน สรุปแล้วรอ 1 เดือนกว่า (แต่เรายังไม่เคยสั่งจาก amazon us นะคะ เคยสั่ง amazon jp รอแค่ 5 วันเอง

      Delete

Post a Comment

Popular posts from this blog

อารมณ์ค้างหลังอ่าน #1 Miss Peregrine's Home for Peculiar Children Series / The Movie

อารมณ์ค้างหลังอ่าน #2 นากพัทธ์ นิยายไทยเล่มแรกที่ม้าอ่าน