สองพัน...ได้อะไรกลับมาบ้าง? งาน'สือ 62 @ศูนย์ฯสิริกิติ์


          สวัสดีค่ะ เข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว ทุกท่านที่เป็นหนอนหนังสือก็คงจะได้ไปเดินชมงานหนังสือ พร้อมกับซื้อหนังสือจำนวนมากจนอ่านแทบไม่หมด (มาดอง?) กันบ้างแล้วสินะคะ 


          หลังจากผ่านช่วงบ้าเครื่องเขียนกันไปแล้ว ม้าอยากจะขอกลับมาสานต่อเจตนารมณ์ตัวเองเกี่ยวกับหนังสือกันสักหน่อย ถึงแม้จะอ่านหนังสือมาไม่มากเท่ากับใคร แต่ก็อยากเขียนแชร์ประสบการณ์ให้หลายๆคนอ่านดูค่ะ
          พิมพ์ไปให้มากความ รอบนี้ ม้าก็ไม่พลาดอีกแล้ว วันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมาม้าไปทำงานแถวหัวลำโพง ขากลับแอบอู้งานมาแวะงานหนังสือสักหน่อย แบบว่า...

เหตุการณ์สมมติ
ฝั่งอธรรม: ไหนๆก็เป็นทางกลับบ้านแล้ว จะเสียเที่ยวไปไย...ขอไปแว้บนึงละกัน 
ฝั่งธรรมะ: แต่เฮ้ยแกร...เราต้องเก็บเงินนะยะ
ฝั่งอธรรม: เอาน่า ไปเซอร์เวย์ ไม่ได้ซื้อไรหรอก เดินดูเฉยๆ

          อืม...จ้า...เดินดูเฉยๆ...

          แล้วไอ้กองหนังสือที่หน้าปกโพสต์คืออะไรฟะ // พูดกับภาพแฟลชแบ็คตอนหยิบหนังสืออย่างถะนุกนอมที่ผุดเข้ามาในหัว
          อ่ะ ไหนๆถ่อสังขารมาแล้ว ก็เก็บภาพบรรยากาศแรกที่ก้าวขาเข้ามาในงานสักหน่อย สูดลมหายใจฟื้ด บอกตัวเองอย่างภาคภูมิ ฉันมาถึงแล้วนะโว้ย!



          แต่คุณผู้อ่านที่รักคะ...ม้าไม่ได้ถ่ายบูธต่างๆที่ไปเดินมาอ่ะะะค่ะเลยไม่มีภาพปลากรอบ ไว้ถ้าอัพเดตยังไงจะเอาไปไว้โพสต์ใหม่นะคะ >< ดูเฉพาะภาพหนังสือที่ไปจัดมาก่อนแล้วกันเนอะ

          ปีนี้ม้ามาในตีมเน้นซื้อมังงะ ไม่เน้นหนังสือภาษาอังกฤษ (เพราะมีที่ซื้อที่ Book Depository แล้วไงโฮะะะะะไม่โฆษณาเลย หนูขอสปอนเซอร์ได้มั้ยยย) ดังนั้นรอบนี้จะไม่มีรีวิวหนังสือนิยายภาษาอังกฤษนะคะ เดินไปตรงรี่ไปหยิบแผนที่กางดูแว้บๆ แล้วก็เข้าไปใน Plenary Hall โดยพลัน
ข้างในมะรุมมะตุ้มน้อยกว่าทุกปี (แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง) คือมาถึงบ่ายสองแต่คนไม่เยอะอย่างที่คิด ทั้งๆที่ปกติแถวบูธนานมีบุ๊คส์ (ซึ่งมี Siam Inter Comic ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเสมอ) แทบเหยียบกันตาย ในเมื่อทางสะดวกแบบนี้ม้าก็พุ่งเข้าบูธ Siam Inter Comic ไปเลยจ้า

          บอกก่อนเลยนะคะว่าม้าเพิ่งม้ารื้อฟื้นอ่านมังงะตอนปีนี้ เพราะว่าปี 2554 น้ำท่วมเอาการ์ตูน Shoujo สนพ.บงกชจมหายไปหมดเลย (ทั้งผลงานที่ไม่พิมพ์แล้วของอจ. Moyoco Anno กับ Arina Tanemura และหนังสือที่โชคร้ายเล่มอื่นๆด้วย TT) มันเลยเกิดเป็นปมสะเทือนไตเลิกอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นเเล้วหันมาอ่านวรรณกรรมแทนค่ะ555 (แบบนี้ก็ได้เหรอ) ตอนนี้กำลังย้อนกลับมาสู่โลกเเห่งมังงะอีกครั้ง โดยการ์ตูนญี่ปุ่นม้าจะลองอ่านฟรีในเว็บ (ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษ) อ่านดะมันทุกแนว Shoujo Shounen ชอบมากค่อยตามซื้อเก็บแบบลิขสิทธิ์เอา ไม่มีลิขสิทธิ์ไทยก็ไม่เก็บมันละ (อย่าดุเค้าน้าเค้าแค่ล้อเล่น จะตามซื้อ Barbarities อยู่เนี่ย เส้นน่ารักเกิ๊นนนน)


          Acquired: Dr. Stone เล่ม 1-7!



          มังงะเรื่องนี้เห็นมานานตั้งแต่ออกเล่มแรกๆ จำได้ว่าเป็นลายเส้นเดียวกับเรื่อง Origin ที่ไม่สเปคก็เลยไม่สนใจ แต่แล้ววันหนึ่งอยู่ดีๆนึกครึ้มใจอะไรก็ไม่รู้ เปิดเว็บขึ้นมาอ่านแล้วติดงอมแงมเลยค่ะ คือเข้าไปแบบไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอะไรด้วยนะ ขอแค่มีการ์ตูนอ่านพอ555 เนื้อเรื่องมันจะเกี่ยวกับโลกหลังล่มสลาย (Post-Apocalypse) โดยลำแสงประหลาดที่เปลี่ยนคนให้เป็นหินประดุจจ้องตานางเมดูซ่า (?) และกำเนิดใหม่ในอีกหลายพันปีต่อมาค่ะ โดยจะเป็นแนวเอาชีวิตรอดเชิงวิทยาศาสตร์ที่มีเซนคู (ตอนแรกอ่านภาษาอังกฤษนึกว่าเซ็นกุ) พ่อหนุ่มม.สองสมองไอสไตน์เป็นผู้นำในการนำวิทยาการจากอดีตมาฟื้นฟูใหม่ค่ะ เอาเป็นว่าไม่อยากสปอยล์อะไร แต่ขอโฆษณาหน่อยนะ มันทำเป็นอนิเมะแล้ว!!!!
คำเตือน: ตัวอย่างสปอยล์เนื้อเรื่อง ดังนั้นใครหวาดกลัวคำสาปแห่งการสปอยล์ควรพิจารณา ใคร่ครวญ และไตร่ตรองก่อนกดดู



          เรื่องลายเส้น เส้นที่วาดในเล่มรายละเอียดดีค่ะ แต่จะไม่ลงละเมียดละมัยแบบดิบๆแบบงานอื่นของอจ. Boichi ส่วนตัวรู้สึกไม่ค่อยชอบลายเส้นของอจ.ท่านนี้นะ แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็เกิดชอบขึ้นมาจนคิดว่าจะลองเปิดใจหางานอื่นมาเสพเพิ่มซะงั้น เรื่องตัวละครคิดว่าอจ. Riichiro Inagaki เขียนออกมาได้ดูมีชีวิตชีวามากมาย ปล.ก่อนหน้าไม่เคยเห็นอจ.Boichi แกวาดเด็กวัยรุ่นมาก่อน แถมแกยังวาดเด็กหนุ่มโชตะได้ดีย์มว๊ากเลยด้วยสิ (อ่านไปเรื่อยๆจะเจอเอง) แอบรู้สึกว่าเซนคูผอมบางกว่าหน้าปกด้วย ถถถถ เท่แล้วก็น่ารักไม่หยอกเลย





     Mob Psycho 100 เล่ม 1-9



          ติ่งอจ. One (อ่านว่าโอเนะมั้งนะ) ค่ะ... เป็นนักเขียนที่ "ออกงานอะไรมาก็จะตามเก็บ" เพราะผลงานแกคุณภาพคับแก้วมากจริงๆ นี่เรียกว่าอวยใช่มะ? เออได้! อวยก็อวยละวะงานนี้

          เนื้อเรื่องเห็นเอกลักษณ์การเขียนของอจ.ออกแรงมาก ไม่ซับซ้อนแต่สนุกและมีมุกหักมุมตลกๆอยู่ตลอดเวลา ตอนดึงดราม่าก็ไปสุดและยังรู้สึกสมเหตุสมผลทั้งที่เรื่องราวมันไม่สมเหตุสมผล (?)

          การ์ตูนเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของเด็กชายม.สอง (อีกแล้ว) นามคาเงยาม่า ชิเงโอะ หรือที่คนอื่นเรียกกันว่าม็อบคนซื่อ แม้เขาจะเป็นคนที่ไม่ดึงดูดสาว และเรียกได้ว่าอยู่ในวิถีพอเพียงแบบสุดๆ แต่กลับมีพลังจิตที่แกร่งกล้าอย่างน่าเหลือเชื่อเเต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมาอยู่ในคนที่ตัดผมทรงเห็ดหน้าซังกะตายแบบนี้ (แต่ก็ไม่เท่าไซตามะหรอก จริงไหมคะ?)
          และม้าเชื่อว่าหลายคนคงจะดูเจ้าสิ่งนี้อย่างสนุกสนานกันไปเรียบร้อยโรงเรียนญี่ปุ่นเเล้วสินะคะ...




          หนังสือชุด นักดาบ สำนักพิมพ์ยิปซี



          เอ่อ...อันนี้คงช่วงเห่อญี่ปุ่นหรืออะไรสักอย่างถึงได้ซื้อหนังสือชุดนี้มาอ่าน คิดว่าคงเอาไปประกอบการเขียนการ์ตูนได้แต่คงต้องนั่งศึกษาวัฒนธรรมญี่ปุ่นไปอีกนานเลยล่ะค่ะ คุณภาพของยิปซีและเอเนอร์จีของพี่คนขายขอบอกว่าสุดยอดไม่มีอะไรให้บรรยายมาก! ในกล่องมีหนังสือทั้งหมด 4 เล่ม ดังนี้ค่ะ

     - ฮิโตะคิริ 4 มือสังหารอุดมการณ์ปฏิวัติ
     - อิโต อิตโตไซ ดาบเดียวพิฆาต
     - มิยะโมะโตะ มุซาชิ ดาบพเนจรไร้พ่าย
     - ยางิว ดาบคร่าชีวิต ดาบมอบชีวิต




.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

.
.
.
.
.
.

.
.
.
.

.
.

.



          หึ มาถึงช่วงสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของโพสต์นี้กันแล้ว ที่บอกว่าไม่มีรีวิวหนังสือภาษาอังกฤษนั่นคือม้า go-six ค่ะ (ชาวบ้านเขาก็รู้ตั้งแต่ปกโพสต์แล้วไหมอ่ะ!!!) เพราะว่าพอเดินผ่านเอเชียบุคก็ฉวยได้กลับมาเล่มหนึ่งเหมือนเคย TT หนังสือเล่มนั้นก็คือ Tales of the Greek Heroes เล่มนี้นั่นเองงงง



          ที่หยิบมาเพราะหงุดหงิดที่หาเรื่องสั้นอ่านไม่ได้ ตั้งใจจะหาซื้อ รวมเรื่องสั้นของสตีเฟ่น คิงมาอ่านก็ดันไม่มีเลยหาสิ่งทดแทนจนมาเจอเข้ากับหนังสือเล่มนี้นี่แหล่ะค่ะ




          บอกเลยว่าซื้อมาเพราะปกและการตกแต่งที่ชวนอ่าน แต่ก็ดูความเหมาะสมเป็นหลัก เล่มไม่ใหญ่ ความหนาไม่มาก ราคาไม่เกินสามร้อย แถมข้างในหนังสือแต่ละบทจะมีรูปลายเส้นสวยๆให้ดูเพลินๆก่อนอ่านด้วยล่ะ ซื้อเลย!




          ลักษณะภาษาที่ใช้เป็นฉบับ YA (Young Adult) อ่านไม่ยากไม่ง่ายสำหรับคนภาษาอังกฤษถูไถแบบม้า แถมเคยอ่านเทพนิยายกรีกฉบับภาษาไทยมาก่อนหน้าแล้ว คงไม่ยากเกินจะอ่าน (เดา) จบในเวลาสามวัน (ถ้าตั้งใจอ่านถึงที่สุดอ่ะนะ =_=)







          เอาล่ะค่ะ ม้าใช้เวลาเขียนโพสต์นี้ตั้งหลายวัน แถมยังใช้เงินสองพันที่มีจนหมดเกลี้ยงกันไปแล้ว ก็แหม ครั้งสุดท้ายในเมืองกรุงแล้วนี่นา... แต่เดือนตุลาก็มาจัดใกล้บ้านฉัน อุโฮะ // หัวเราะในใจอย่างชั่วร้าย
ตาชำเลืองหนังสือวายแบบพอหอมปากหอมคอแล้วเดินหน้าต่อ

ปล. ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 10 เมษายน 2562 Book Depository เขาเเจกโค้ดลด 10% ให้กับออร์เดอร์ที่ส่งในไทยนะคะ อย่าพลาดโอกาสดีๆกันล่ะ <3 (ขอสปอนเซอร์ทีเถอะ tie-in ไม่ไหวแล้ว)

Comments

Popular posts from this blog

อารมณ์ค้างหลังอ่าน #1 Miss Peregrine's Home for Peculiar Children Series / The Movie

หาวถู #1 สั่งหนังสือจาก Book Depository + รีวิวสภาพหนังสือ

อารมณ์ค้างหลังอ่าน #2 นากพัทธ์ นิยายไทยเล่มแรกที่ม้าอ่าน